ปักกิ่ง 9 มีนาคม (นักข่าวหวัง เจิ้ง) กระทรวงอุตสาหกรรมและเทคโนโลยีสารสนเทศได้เรียนรู้ว่าในปี 2564 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตของจีนจะสูงถึง 31.4 ล้านล้านหยวน คิดเป็น 27.4% ของ GDP ตั้งแต่ปี 2010 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมการผลิตของจีนได้อันดับหนึ่งของโลกเป็นเวลา 12 ปีติดต่อกัน
นับตั้งแต่การประชุมแห่งชาติ CPC ครั้งที่ 18 จุดยืนของจีนในฐานะผู้มีอำนาจด้านการผลิตก็ได้รับการรวมเข้าไว้ด้วยกันมากขึ้น จากปี 2555 ถึงปี 2564 มูลค่าเพิ่มของอุตสาหกรรมจีนเพิ่มขึ้นจาก 20.9 ล้านล้านหยวนเป็น 37.3 ล้านล้านหยวน ซึ่งมูลค่าเพิ่มของการผลิตเพิ่มขึ้นจาก 16.98 ล้านล้านหยวนเป็น 31.4 ล้านล้านหยวน
-- ความสามารถในการแข่งขันระดับนานาชาติของอุตสาหกรรมการผลิตเพิ่มขึ้นอย่างมาก ประเทศจีนเป็นประเทศเดียวในโลกที่มีหมวดหมู่อุตสาหกรรมทั้งหมดอยู่ในการจำแนกประเภทอุตสาหกรรมของสหประชาชาติ และผลผลิตของผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรมมากกว่า 220 รายการอยู่ในอันดับต้น ๆ ของโลก ในปี 2564 มูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมของจีนที่เกินขนาดที่กำหนดจะเติบโต 9.6% สูงกว่าปี 2020 6.8 เปอร์เซ็นต์ และเติบโตเฉลี่ย 6.1% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
-- ขีดความสามารถด้านนวัตกรรมของภาคการผลิตดีขึ้นอย่างมาก โซลาร์เซลล์ พลังงานลม การต่อเรือ และห่วงโซ่อุตสาหกรรมอื่นๆ ได้เสริมความแข็งแกร่งให้กับข้อได้เปรียบในการแข่งขันระดับนานาชาติ ผลผลิตตู้คอนเทนเนอร์เพิ่มขึ้น 110.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี ขณะที่ผลผลิตชิปเพิ่มขึ้น 33.3% ความคืบหน้าในการจัดการกับปัญหาสำคัญในจอแสดงผลใหม่ มาเธอร์บอร์ดอุตสาหกรรม และวัสดุใหม่
-- การยกระดับโครงสร้างอุตสาหกรรมการผลิตเป็นไปอย่างรวดเร็ว มูลค่าเพิ่มของการผลิตไฮเทคและการผลิตอุปกรณ์เพิ่มขึ้น 18.2 เปอร์เซ็นต์ และ 12.9% ตามลำดับ คิดเป็น 28.6 เปอร์เซ็นต์ และ 45 เปอร์เซ็นต์ ตามลำดับ ตามการเติบโตของอุตสาหกรรมที่กำหนดข้างต้น การใช้พลังงานต่อหน่วยของมูลค่าเพิ่มของผู้ประกอบการอุตสาหกรรมที่เกินขนาดที่กำหนดลดลง 5.6% เมื่อเทียบเป็นรายปี
-- การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัลของภาคการผลิตกำลังเร่งตัวขึ้น ประเทศจีนได้สร้างเครือข่ายใยแก้วนำแสงและการสื่อสารเคลื่อนที่ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีสถานีฐาน 5G มากกว่า 1.425 ล้านสถานีและโทรศัพท์มือถือ 5G ที่เชื่อมต่อ 520 ล้านเครื่อง การเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรมการผลิตให้เป็นดิจิทัลและเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมได้รับการเร่งรัด ร้อยละ 55.3 ของกระบวนการสำคัญในพื้นที่สำคัญได้รับการควบคุมแบบดิจิทัล และร้อยละ 74.7 ของ R&D ดิจิทัลและเครื่องมือการออกแบบได้ถูกนำมาใช้ ซึ่งเป็นแรงผลักดันที่แข็งแกร่งสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและมั่นคง
